เห็นคนเที่ยวลาวกันเยอะแยะเลย ไม่นึกว่าถึงคราวตัวเองได้มีโอกาสไปเที่ยวกะเค้าบ้าง
คราวนี้เราไปกันสามคน มีพี่จิม กับพี่เจี๊ยบ แล้วก้เราร่วมทริปไปกะเขา นี่เป็นการรีวิวการเที่ยวครั้งแรกเลย
กำหนดการคร่าว ๆ มีดังนี้
กำหนดการวังเวียง
7 สิงหาคม 2558
4:00 pm เจอกับพี่จิม ที่หัวลำโพง เพื่อขึ้นรถไฟฟรี (ทำเวลาได้ด้วย)
5:30 pm ถึงดอนเมือง
8:00 pm บินไปอุดรโดยขี่นกไป nok dd9281
9:00 pm ถึงอุดร เช็คอิน good house (500B)
8 สิงหาคม 2558
8:00 am ไปขึ้นนรถบัส อุดร-หนองคาย-เวียงจันทร์
13:00 am ถึงเวียงจันทร์
14:30 pm เช่า skylab เที่ยวในเวียงจันที์ พระธาตุหลวง หอพระแก้ว ประตูชัย และอื่น ๆ
ค้างเวียงจัน 1 คืนที่ vientiane star
9 สิงหาคม
8:00 am ขึ้นรถบัสที่สถานีขนส่งเวียงจัน เพื่อไปวังเวียง
13:00 pm ถึงวังเวียง เช็คอิน. river view bungalows
10-11 สิงหาคม 2558
เที่ยวถ้ำ พายเรือคายัค ล่องแม่น้ำซ่ง เดินสะพานส้ม โดดน้ำบลูลากูน
12 สิงหาคม 2558
8:00 am แช็คเอ้าท์ แล้วขึ้นรถบัส. วังเวียง – เวียงจัน – อุดร
13:00 pm ถึงอุดร. เที่ยวรอบเมือง
14:00 pm มาสนามบิน
18:30pm เครื่องออก
20:30 ถึง. กทม โดยสวัสดิภาพ
จบทริป
7 สิงหาคม 2558
ทริปนี้เรารวมพลกันที่หัวลำโพง พี่จิมนัดเจอกันที่นั่น หลังเลิกงาน เราเลือกที่จะเดินทางด้วยรถไฟกัน เนื่องด้วยเวลาที่ค่อนข้างแน่นอนกว่า รับรองไม่ตกเครื่องแน่นอน
เดินทางชิล ๆ กันด้วยตั๋วรถไฟฟรี
ถึงแล้วดอนเมือง เราเดินทางด้วยสายการบินของนกแอร์ ไปลงเครื่องที่อุดร เพื่อพักค้างคืนกันที่นั่นหนึ่งคืน
พักกันที่ Good house คืนละ 500 บาท ไม่น่าเชื่อที่พักดีกว่าที่คิดไว้แหะ
เราเดินทางไปขึ้นรถบัสเพื่อข้ามฝั่งกันไปลาวขึ้นรถที่ขนส่งอุดรไป สิ่งที่ต้องเตรียมไว้คือพาสปอร์ต แล้วก็ตรวจคนเข้าเมือง เสียค่าผ่านทางเข้ามเมืองอีก 40 บาท จากนั้นแลกเงินกันไว้ คนละ 2,000บาท X 3 คน (ต้องจัดสรร เงินให้ดีแล้วววว)
ถึงลาวประมาณ 13:30 น. เดินทางเหนื่อยมาก ระหว่างที่ลงรถนั้นเอง เราจะเจอเหตุการณ์คล้าย ๆ หมอชิตเลย คือเจอพวกรถรับจ้างเข้ามาต้อนให้ไปด้วย แต่…. อย่าเพิ่งไป…. เราควรจะทำภารกิจบางอย่างและสำรวจรอบ ๆ กันก่อน นั่นคือ หาอะไรทาน และในสถานีขนส่งยังมีร้านเกี่ยวกับโทรศัพท์อยู่ แนะนำให้จัดการอะไรให้พร้อมที่นั่น เพราะ….
1. เปิดเบอร์เราต้องใช้พาสปอร์ต และภาษาลาว (คุยรู้เรื่องก็รอดไป)
2. เราเก็บไลน์ของพี่ ๆ ที่เค้ารับจ้างขับรถไว้ เรียกใช้สะดวก ราคาคุยกันได้
3. เราจะได้ไม่พลาดการสื่อสารกะเพื่อน ๆ ในโซเชียลไง
ค่าซิม+ค่าเน็ต ทั้งหมด 40,000 กีบ ตกคิดเงินไทยประมาณ 160 บาท เอาโทรศัพท์ แล้วก็ให้พาสปอร์ตร้านไปเลย แล้วนั่งกินข้าวเปียกเส้นแถว ๆ นั้นแหล่ะ พอกินเสร็จก็มารับคืน
จากนั้นก็แวะเข้าที่พักก่อน สกายแลป(แทกซี่ตุ๊ก ๆบ้านเรา) หาทีหลังก็ยังไม่สาย แวะเข้าที่พักเพื่อพักผ่อนก่อน แล้วก็นัดพี่เค้ามารับพาเราไปตระเวนเที่ยวอีกที แลกไลน์ไว้แล้ว เห็นไหมบอกแล้วว่ามันมีประโยชน์
หลังจากพักผ่อนหายเหนื่อยแล้ว เราก็ให้พี่เค้าพาเราไปเที่ยวตามจุดต่าง ๆ ราคาเหมา ๆ เท่าไหร่จำไม่ได้แล้ว รู้แค่ว่า ประมาณ 400 บาทไทย
โดยเริ่มจากหอพระแก้ว เสียดายโบสถ์อยู่ช่วงปรับปรุง เลยเก็บมาได้แต่ตอนกำลังบูรณะปรับปรุงอยู่ไม่ได้เข้าไปสักการะข้างใน
จากนั้นเดินมาฝั่งตรงข้าม วัดศรีษะเกศ เข้าอีกวัดนึง ที่นี่ไม่อนุญาตให้ถ่ายภายในโบสถ์ เลยเก็บมาได้แต่รอบ ๆ นอกแทน
ไปชิลกันต่อที่ประตูชัย อยากมีรูปเป็นของตัวเอง แต่ก็เกรงใจ เลยตั้งกล้องบนขาตั้ง ใส่ฟิลเตอร์ CPL แล้วถ่ายเองเลย วิ่งกลับไปกลับมา 3 รอบได้ กว่าจะได้ภาพ นี่มาตอนบ่ายเลยย้อนแสงแล้วววววว
จากนั้นไปวัดพระธาตุหลวง แต่น่าเสียดาย ไปถึง 4 โมงเย็น เค้ากำลังปิดประตูพอดี ก็ได้ทราบมาว่าที่นี่เค้าปิด 4 โมง นั่นแปลว่าเราควรจะมาที่นี่ก่อนไปที่อื่น ๆ เสียอีก โชคดีส่วนอื่นของวัดยังเปิดอยู่ เลยเได้แว้บเข้าไปถ่ายรูปเล่นนิดนึง
จากนั้นไปแวะไหว้พระอีกที่นึง วัดศรีเมือง ที่นี่เค้าเชื่อกันเรื่องการขอช่วยบนบานต่าง ๆ
หลังจากนั้นพี่ ๆ ทั้งสองก็เหนื่อยและหิวแล้ว แถว ๆ ที่พักน่ะแหล่ะ อ่ะ…. ทานข้าวววววว…
เช้ารุ่งขึ้นก็ทานอะไรชิว ๆ ที่โรงแรมก่อน แล้วไปรอรถบัส VIP ไปวังเวียง แล้วนั่งทานอะไรรอใกล้ ๆ แถวนั้น เพราะรถออก 11 โมง (ร้องกรี๊ด มาถึงก่อนเวลาหลาย ชม.)
การเดินทางนั้นยาวไกลมาก นอนหลับไปหลายตื่น รู้แต่ข้าง ๆ ทางมีแต่ป่าแต่เขา รถบัสจอดให้เราลงทำธุระส่วนตัว และหาอะไรทานระหว่างทางได้ 1 รอบ ส่วนตัวชอบขนมปังยาวที่นี่มากกว่าของที่ร้านกาแฟ เพราะอร่อยกว่าาาาาา
พอถึงจุดหมายที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ก็มีพวกรถตู้มารับ ตอนแกรบอกพวกเราว่าฟรี แต่พอไล่ส่งแขกแต่ละที่แล้วก็เรียกเก็บคนละ 10,000 กีบ… โดยอ้างว่าถ้าเข้ากลางเมืองถึงจะฟรี ตอนส่งเราเป็นที่สุดท้ายให้จ่ายในรถเพราะกลัวรถสามล้อข้างนอกจะเห็น เอ๊า…. มีงี้ด้วย…
จากนั้นเราก็เข้าที่พักที่ ริเวอร์ วิว บังกาโล พักผ่อนหายเหนื่อย ออกมาหาอะไรทาน แล้วก็วางแผนกิจกรรมวันพรุ่งนี้ เดินสำรวจทริปเที่ยวต่าง ๆ แต่ละที่ราคาไม่เท่ากันต้องเลือกดี ๆ
แอบถ่ายรูปนิดหน่อยชิว ๆ
วันที่ 10 สิงหาคม 2558
พอตื่นเช้า เราก็ทานอะไร คุยกันเพลิน ๆ ที่นี่ ไวไฟไม่ทั่วทุกห้อง คือมีไวไฟที่บ้านหลังกลาง แล้วก็ห้องอาหาร แล้วสัญญาณมันไม่ถึงห้องเรา เลยพอใช้เนตในมือถือไปพลาง ๆ แต่คลื่นไม่แรงมาก
จากนั้น ช่วงสาย เราก็ไปจุดนัดหมาย ทริปท่องเที่ยวที่จองไว้เมื่อวาน ได้เริ่มต้นแล้ว
เรานั่งรถเป็นระยะทางยาวไกลมา แต่ไม่ซีเรียสอะไร นั่งข้างเกาหลีหน้าตาดี รู้งี้แอบแกล้งหลับแล้วซบไหล่ก็ดี แต่ท่าจะยาก เพราะเส้นทางเดินทางถนนไม่เรียบพอให้แกล้งงีบได้เลย
พอถึงจุดหมายแล้ว เราก็ข้ามฝั่งกันด้วยการพายเรือคายัคข้าม ส่วนการพายนั้นเค้ามีสอนให้เราพร้อมตรงนั้นเลย ต้องรีบเรียนรู้ดี ๆ และเร็ว ๆ
หลังจากพายเรือข้ามฝั่งมาได้แล้ว เราก็เดินทางไปลอดถ้ำห่วงยางกัน เสียดายไม่ได้เอากล้องกันน้ำมาด้วย ไม่งั้นได้เอาเข้าไปถ่ายเล่นด้วยแล้วววววว
จากนั้นเราก็เดินทางออกมาพายเรือคายัคกันต่อ สถานที่สวยมากกกกกกก มีบางจุดที่อยากถ่าย แต่ไม่กล้าหยิบกล้องออกมา เพราะพี่ที่นั่งกับเราเค้าตะคริวกินท้อง ขยับตัวขึ้นขอบเรือเรือคว่ำไปสองรอบ อิอิ กัว ๆ ๆ ๆ ระยะทางทั้งสิ้น 15km ระหว่างทางมีบาร์ให้แวะชิวสักแปบ งานนี้เหนื่อย ลืมเก็บรูปบรรยากาศมาเลย
พอกลับถึงที่พัก โชคดีผ่านที่พัก เลยแวะขึ้นเลย ไม่ต้องเดินอ้อมกลับละ อาบน้ำเสร็จก็หิวไง ก็ออกมาเดินหาอะไรทานกันชิว ๆ
เมนูร้านส่วนมากจะมีภาษาเกาหลีติดมาด้วย เพราะนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีนั้นเยอะมาก ส่วนราคาอาหารนั้นก็ราคานักท่องเที่ยวไปหน่อย โชคดีเจอร้านราคาปกติตามชาวบ้าน มาลาวก็ต้องทานอาหารพื้นเมืองสิ จะทานหรูไปทำไม เนอะะะะะ
หลังจากทานเสร็จก็เดินชมเมืองบริเวณแถวนั้นสักนิด…. ก่อนกลับไปดูละครเจ้านาง แล้วหลับไป
11 สิงหาคม 2558
วันนี้อากาศค่อนข้างดีกว่าเมื่อวานมาก หาอะไรลงท้องก่อนเดินทาง
การเดินทางวันนี้เป้าหมายคือบลูลากูน ตอนแรกว่าจะปั่นจักรยานประหยัด ลุย ๆ สนุก ๆ ตามที่หลายทริปรีวิวแล้ว แต่ลงความเห็นกันแล้วว่า ไม่น่ารอด เลยเหมารถไปเองดีกว่า ไม่เลือกบริษัทเที่ยวด้วย เพราะเหมาไปเองรวมแล้วถูกกว่า ก็เลยเดินทางกันไป
แต่ระหว่างทางเราก็ไปแวะอุทยานถ้ำจัง ก่อน เสียค่าเข้าอุทยาน คนละ 4,000 กีบ แล้วก็มาถึงสะพานสีส้ม เราถ่ายรูปเล่นที่นี่กันสักพัก
จากนั้นเราก็ไปน้ำตกบลูลากูนกัน ส่วนเส้นทางจะโหดแค่ไหน ก็ดูเอา
ว้ากกกก ถึงแล้ว โดดน้ำ ตุ้มมมมมมมมม เราโดดตรงจุดบนสุดไป 2 รอบ ฟิน
หิว ทานอารายสักนิด แบบว่าเค้าจัดมาให้เต็มมากกกก
กลับมาร้อน ๆ เจอเด็กกลุ่มนึงกำลังเล่นน้ำกันอยู่แถวบังกาโล จริง ๆ มีเด็กน่าจะเกาหลีหรือจีนไม่รู้ หุ่นดีมาก กำลังจะโตเป็นหนุ่ม แต่ไม่กล้าถ่าย เลยถ่ายแต่เด็ก ๆ มา อิอิ ดูสิ เค้ามีของเล่นกันด้วยนะ ไม่ต้องกลัวจมน้ำเลย อารมณ์ประมาณว่า วิ่งไปต้นทางแล้วโดดน้ำตู้มมมมมมม แล้วก้อลอย ๆ มาปลายทางขึ้นฝั่ง แล้ววิ่งไปโดดน้ำที่ต้นฝั่งอีกรอบ
ถ่ายรูปกันสักนิด เพราะวันสุดท้ายแล้ววววว ตากล้องมีเราคนเดียว รูปเลยน้อยไปหน่อยสำหรับทริปนี้ >_<
จากนั้นเราก็หาอะไรทาน แล้วก้อติดต่อรถกลับสำหรับพรุ่งนี้ เดินเล่นในเมืองอีกรอบ เจอร้านตัดผม เก๋ดี
12 สิงหาคม 2558
คงต้องบอกลากันแล้วทริปนี้ เราตื่นแต่เช้าเพื่อมารอรถกลับ ครั้งนี้เราเลือกกลับเป็นรถตู้
เส้นทางก็ยาวไกลเช่นเดิน หลับ ๆ ตื่น ๆ
มาถึงแล้ว สถานีขนส่ง เตรียมตัวข้ามฝั่งกลับไทย
ตอนกลับ ขั้นตอนก็เดียวกันกับตอนมาเลย
เรามาถึงอุดรประมาณ บ่ายโมงครึ่งได้ เราก็ตัดสินใจเที่วหาอะไรทานก่อนที่จะกลับขึ้นเครื่องรอบ 6 โมงเย็น ไม่ทันถ่ายทั้งหมด ปอบลงกันก่อน อิอิ
ถึงแล้ว…… ตอนแกรก็คิดนะจะนั่งแทกซี่ดีไหม แต่เรามีนัดเพื่อนที่ สยาม ต่อ เลยนั่งบัสสนามบินไปขึ้น BTS หมอชิต
อีกเดี๋ยวก็จะเจอเพื่อนแล้ว ขอลากันตรงนี้นะครับ บ๊ายยยยยยยยย
ข้อแนะนำเพิ่มเติม
1. เล่ห์หลอกนักท่องเที่ยวมีทุกที่ทั่วโลก ต้องระวังให้ดี ดูแลตัวเองและเพื่อนร่วมทริปมาก ๆ
2. พระธาตุหลวง ปิดเข้าชมตอน 4โมง
3. เมื่อไปถึงวังเวียงที่แรกเลยที่ไปคือ บลูลากูน เพราะใช้เวลาทั้งบ่ายเลย ไปให้คุ้มกับที่เมื่อยก้นกัน